DCE
DCE เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ให้เกิดการเชื่อมต่อ โดยจะรับส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ DTE แล้วส่งไปยังตัวกลางส่งข้อมูล ซึ่งตามปกติแล้วอุปกรณ์ DCE มักหมายถึงโมเด็ม โดยหน้าที่ในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ DTE และอุปกรณ์ DCE ด้วยกัน อุปกรณ์ DCE มีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินการเชื่อมต่อและดำรงการเชื่อมต่อให้ดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งยุติเชื่อมต่อและการเปลี่ยนสัญญาณ การสร้างรหัสสัญญาณต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้งานเพื่อการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ DTE และอุปกรณ์ DCE ด้วยกัน ดังนั้นอุปกรณ์ DCE จึงอาจจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์หรือไม่ก็ได้ ตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ DCE เช่น โมเด็ม การ์ดเครือข่าย เป็นต้นอุปกรณ์ DCE ทั้งสองฝั่งจะมีการแลกเปลี่ยนสัญญาณบนสายที่ใช้เป็นตัวกลางส่งข้อมูลหรือเครือข่าย ซึ่งจะต้องความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยฝ่ายผู้รับต้องใช้การเข้ารหัสสัญญาณเดียวกัน รวมถึงอัตราความเร็วของการส่งกระแสไฟฟ้า ในทำนองเดียวกัน อุปกรณ์ DTE –DCE แต่ละคู่ก็จะต้องได้รับการออกแบบที่สามารถได้ตอบเพื่อทำงานร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อุปกรณ์ที่มาจากดรงงงานผลิตเดียวกัน หรือสร้าง
จากมาตรฐานสากลที่กำหนดขึ้นเป็นทางการ เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและสะดวก โดยการเชื่อมต่อดังกล่าวจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติสำคัญ 4 ด้านด้วยกันคือ
· คุณสมบัติทางกล เป็นคุณสมบัติด้ายกายภาพที่กำหนดรายละเอียดของปลั๊กที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อ ซึ่งมีทั้งปลั๊กแบบตัวผู้ และปลั๊กแบบตัวเมีย โดยเป็นการแสดงถึงการเชื่อมต่อทางฟิสิคัสที่แท้จริงของอุปกรณ์ไปยังอุปกรณ์ DCE
· คุณสมบัติทางไฟฟ้า เป็นการกำหนดคุณสมบัติทางไฟฟ้าของสัญญาณที่ใช้ในการควบคุมการแลกเปลี่ยนข้อมูลรวมถึงวงจรไฟฟ้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระดับรงดันไฟฟ้า , เวลา , การเปลี่ยนแรงดันไฟฟ้า โดยอุปกรณ์ทั้ง DTE และ DCE จะต้องใช้รูปแบบเข้ารหัสชนิดเดียวกัน เช่น การเข้ารหัสแบบ NRZ-L โยคุณสมบัติทางไฟฟ้านี้ยังเกี่ยวข้องกับอัตราข้อมูล ซึ่งเป็นอัตราความเร็วในการรับส่งสัญญาณและระยะทางเป็นสำคัญด้วย
· คุณสมบัติ ด้านหน้าที่การทำงาน หน้าที่การทำงานของสัญญาณต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อจะถูกกำหนดไว้ในรายละเอียดของฟังก์ชัน ซึ่งจะปฏิบัติตามสิ่งที่ได้รับมอบหมายไว้ในเซอร์กิตการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแต่ละเซอร์กิต ซึ่งมีการจัดแบ่งหมวดหมู่ในส่วนของข้อมูลในส่วนของข้อมูล , การควบคุม, เวลา , และอิเล็กทรอนิกส์กราวนด์
· คุณสมบัติของขั้นตอนการทำงาน เป็นรายละเอียดของลำดับเหตุการณ์หรือขั้นตอนในการส่งผ่านข้อมูล ซึ่งจำเป็นต้องมีการควบคุมการทำงาน ที่ตั้งอยู่บนพื้นบานบนหน้าที่การทำงานของการเชื่อมต่อหรือการอินเตอร์เฟซ ซึ่งตัวอย่างที่จะกล่าวถึงในหัวข้อต่อไปนี้ จะทำให้มีความเข้าใจยิ่งขึ้น
ส่วนเชื่อมต่อระบบ WAN ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับผู้ให้บริการ (service provider) ที่อยู่ไกลออกไป การเชื่อมต่อเข้ากับระบบ WAN นั้นมีอยู่หลายรูปแบบ ระบบ WAN ทำการเชื่อมต่อข้อมูลข้ามพื้นที่กว้างขวางและใช้เทคโนโลยีแบบต่างๆ กัน การให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับระบบ WAN มักจะเป็นการเช่าใช้บริการจากผู้ให้บริการ ชนิดของการเชื่อมต่อระบบ WAN ได้แก่ leased line, circuit-switched และ packet-switched
Wan ชนิดต่างๆ
สำหรับการให้บริการ WAN แต่ละชนิดอุปกรณ์ที่เรียกว่า the customer premises equipment (CPE) ซึ่งโดยปกติจะเป็น Router จะทำหน้าที่เป็น data terminal equipment (DTE) การเชื่อมต่อนี้เป็นการเชื่อมต่อเข้ากับผู้ให้บริการโดยใช้อุปกรณ์ data circuit-terminating equipment (DCE) ซึ่งโดยปกติก็จะเป็นโมเด็ม หรือ CSU/DSU (channel service unit/data service unit) อุปกรณ์นี้จะทำการแปลงสัญญาณข้อมูลจาก DTE ให้ไปอยู่ในรูปแบบของข้อมูลที่ระบบ WAN ของผู้ให้บริการสามารถรับรู้ได้
ส่วนเชื่อมต่อ Router เข้ากับการให้บริการระบบ WAN ที่มีใช้กันโดยทั่วไปมักจะเป็นส่วนเชื่อมต่อแบบอนุกรม(serial interface) การเลือกสายแบบอนุกรมที่เหมาะสมนั้น จะทำได้เมื่อสามารถตอบคำถาม 4 ข้อ ต่อไปนี้ได้
1. ชนิดของการเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ของ Cisco นั้นเป็นแบบใด?
Router ของ Cisco อาจจะใช้ส่วนเชื่อมต่อที่แตกต่างกันออกไปสำหรับการเชื่อมต่อแบบอนุกรม ส่วนเชื่อมต่อทางด้านซ้ายเป็นส่วนเชื่อมต่อแบบอนุกรมขนาดเล็ก ส่วนเชื่อมต่อทางด้านขวาเป็นหัวต่อแบบ DB-60 ความแตกต่างนี้ทำให้การเลือกสายเชื่อมต่แบบอนุกรม เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายผ่านอุปกรณ์แบบอนุกรมเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งยวด สำหรับการตั้งระบบ WAN
2. ระบบเครือข่ายที่กำลังเชื่อมต่อเข้าด้วยนั้นเป็นการเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ DCE หรือ DTE?
DTE และ DCE เป็นสวนเชื่อมต่อแบบอนุกรมสองแบบที่อุปกรณ์ต่างๆ ใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน ประเด็นหลักที่แตกต่างกัน คือ อุปกรณ์ DCE สนับสนุนสัญญาณนาฬิกา (clock signal) สำหรับการสื่อสารบนบัส (สายสื่อสาร)
DTE และ DCE เป็นสวนเชื่อมต่อแบบอนุกรมสองแบบที่อุปกรณ์ต่างๆ ใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน ประเด็นหลักที่แตกต่างกัน คือ อุปกรณ์ DCE สนับสนุนสัญญาณนาฬิกา (clock signal) สำหรับการสื่อสารบนบัส (สายสื่อสาร)
3. อุปกรณ์นั้นใช้มาตรฐานการส่งสัญญาณแบบใด?
สำหรับอุปกรณ์แต่ละชนิดจะใช้มาตรฐานที่แตกต่างกัน แต่ละมาตรฐานจะกำหนดลักษณะของสัญญาณในสายสื่อสารและกำหนดชนิดของหัวเชื่อมต่อที่ปลายสายเคเบิ้ล
สำหรับอุปกรณ์แต่ละชนิดจะใช้มาตรฐานที่แตกต่างกัน แต่ละมาตรฐานจะกำหนดลักษณะของสัญญาณในสายสื่อสารและกำหนดชนิดของหัวเชื่อมต่อที่ปลายสายเคเบิ้ล
4. หัวต่อนั้นเป็นชนิดตัวผู้หรือตัวเมีย?
ถ้าหากว่าหัวต่อนั้นสามารถมองเห็นขา (pin) ได้ก็แสดงว่าเป็นหัวต่อแบบตัวผู้ ถ้ามีลักษณะเป็นช่องสำหรับเสียบขาเข้าไปก็แสดงว่าเป็นตัวเมีย
ถ้าหากว่าหัวต่อนั้นสามารถมองเห็นขา (pin) ได้ก็แสดงว่าเป็นหัวต่อแบบตัวผู้ ถ้ามีลักษณะเป็นช่องสำหรับเสียบขาเข้าไปก็แสดงว่าเป็นตัวเมีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น